จตุคาม-รามเทพ ผู้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาตอนที่ 3
ส.ค. 12
ภาพจากพระเทวราชโพธิสัตว์ แห่งอาณาจักศรีวิชัย มอบโดยผู้ใหญ่ปัญญา(แช่ม) บัวจันทร์ และคุณอรรถ ศิริรักษ์
อนึ่งสำหรับความสำคัญ ที่ผู้เขียนได้รับความเอื่อเฟื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม ถึงความสำคัญ จากเอกสาร””ท้าวขัตตุคาม ท้าวรามเทพจากทวารบาลมาสู่เทวะผู้คุ้มครองเมืองนครศรีธรรมราช โดยชัยวุฒิ พิยะกุล””และจากการค้นคว้าของคุณสุรเชษฐ์ แก้วสกุล เกี่ยวกับหนังสือบุดทำขวัญ ในบทชุมนุมเทวดา-บทโองการต่างๆ ฉบับเมืองนครศรีธรรมราช “ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช”จะมีการอัญเชิญ”ท้าวขัตตุคาม ท้าวรามเทพ เพื่อเป็นขวัญ เป็นศิริมงคล จะเห็นว่าในทุกบทบาท วัฒนธรรม ประเพณีของชาวเมืองนครศรีธรรมราชนั้นจะมี””ท้าวขัตตุคาม ท้าวรามเทพ””เพื่อปกป้อง ปกปักรักษาและผู้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและคอยพิทักรักษาพุทธสถานพระบรมธาตุเจดีย์ และต่อมาท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชได้อัญเชิญท่านทั้งสองไปประจำศาลหลักเมืองอีกสถานที่หนึ่ง ในฐานะเทวดาหรือเทพผู้คุ้มครองเมืองนครศรีธรรมราช
การที่ผู้เขียน ได้นำการสร้างวัตถุมงคล”้ท้าวจตุคาม-ท้าวรามเทพเป็นบางรุ่น เนื่องจากการสร้างองค์ท้าวจตุคาม-ท้าวรามเทพ มีเป็นจำนวนมาก สรุปยอดการจัดสร้างไม่ตำกว่า 700 รุ่น รุ่นที่ผู้เขียนนำมาลงเป็นรุ่นที่ผู้เขียนพอจะสัมผัสในการสร้างด้วยตนเองหรือผู้ที่เคารพนับถือร่วมด้วยในการจัดสร้างเกื่อบตลอด ให้เห็นถึงพิธี -วิธการจัดสร้างและการดำเนินการ มีคุณทศพร จิตพิศุทธิ์ ในการลงภาพ ในแต่ละรุ่น และจะเลือกลงที่เกี่ยวโยงกับความเป็นมาของชนเผ่าไทย-เมืองนักสิบสองนักษัตริย์ ศรีวิชัย-การเข้ามาของพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ ตามหลักฐานกะเบื่องจารที่เป็นหลักฐาน จึงขอนำลงตามเหตุที่กล่าวครับ
ในการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราชในวาระแรก ในการประกอบพิธีกรรม เบิกเนตรหลักเมือง ได้มีการสร้างวัตถุมงคลควบคู่ไปด้วย ในการกำหนดรูปแบบรายละเอียดต่างๆ ได้ถูกกำหนดจากองค์จตุคามรามเทพ ซึ่งเป็นรูปแบบวัตถุุมงคลที่ไม่เหมื่อนใคร และไมมีใครเคยเห็นมาก่อน วัตุมงคลที่สร้างนี้ เป็นการสมนาคุณให้กับผู้มาช่วยเหลือสร้างหลักเมืองเท่านั้น ซึ่งในการตั้งราคาไว้ถูกมาก เพียงแค่ศรัทธา ถ้าไม่มีเงินก็แจกให้ไปฟรีๆ ถ้ามีเงินอยากช่วยเหลือเป็นทุนในการสร้างก็ได้ ราคาค่างวดตั้งไว้ที่ 49 .-บาท
ในการสร้างวัตถุมงคลเพื่อสมนาคุณแก่ผู้มาช่วยเหลือและตอบแทนแก่ผู้ศรัทธา ได้รับการยืนยันจากคุณอรรถ ศริรักษ์ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้มีโอกาสดำเนินการในการปั้มพระในบริเวณบ้านพักสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ในการจัดสร้างครั้งแรกจะมีแค่ 2 แบบคือ
1.พระเนื้อผง สุริยันจันทรา
ภาพจากพระเทวราชโพธิสัตว์ แห่งอาณาจักศรีวิชัย มอบโดยผู้ใหญ่ปัญญา(แช่ม) บัวจันทร์ และคุณอรรถ ศิริรักษ์
2.พระเนื้อผง พระพุทธสิหิงค์
ภาพจากพระเทวราชโพธิสัตว์ แห่งอาณาจักศรีวิชัย มอบโดยผู้ใหญ่ปัญญา(แช่ม) บัวจันทร์ และคุณอรรถ ศิริรักษ์
ในการสร้างรูปเคารพครั้งแรกขององค์จตุคามรามเทพ เมื่อ พ.ศ.2530 ในรูปแบบของพระผงสุริยัน-จันทรา องค์จตุคามรามเทพ ประดิษฐ์เป็นรูปวงกลมภัฎจักร ตามอุดมคติศิลปศาสตร์ ศรีวิชัย ทำรูปพระราหูอมจันทร์ล้อมทั้ง 8 ทิศ กงจักรล้อมดวงตรา 12 นักกษัตริย์ ตรงกลางเป็นปฎิมากรรมพระเทวะโพธิสัตว์แห่งทะเลใต้เป็นองค์ประทาน ด้านหลังสลักยันต์หัวใจธรณี หัวใจมนุษย์ หัวใจพระคาถา กำกับธาตุตามคติธรรมชาวศรีวิชัย
ภาพและเอกสาร ความลับของฟ้า องค์จตุคามรามเทพ เขียนโดย พงศธร เทพแสงพราว มอบโดยพระครูเกษมพัฒนกิจ / จตุคาม รามเทพ พระเทวราชโพธิสัตว์ แห่งอาณาจักศรีวิชัย มอบโดยผู้ใหญ่ปัญญา(แช่ม) บัวจันทร์และคุณอรรถ ศิริรักษ์
ภาพและเอกสาร ความลับของฟ้า องค์จตุคามรามเทพ เขียนโดย พงศธร เทพแสงพราว มอบโดยพระครูเกษมพัฒนกิจ / จตุคาม รามเทพ พระเทวราชโพธิสัตว์ แห่งอาณาจักศรีวิชัย มอบโดยผู้ใหญ่ปัญญา(แช่ม) บัวจันทร์ และคุณอรรถ ศิริรักษ์
พระหลักเมืองเนื้อโลหะ สร้างเนื่องในโอกาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมยอดชัยหลักเมืองนครศรีธรรมราช อันเป็นวันมหามงคลยิ่งใหญ่ รอบพันปี คือวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2530 ตรงกับเดือน9 ขึ้น 9 ค่ำ ปีเถาะ
อันเนื่องมาจากเริ่ม ในการจัดสร้างวัตถุมงคล ได้มีการสร้างวัตถุมลคลรุ่นแรก เพื่อมอบเป็นของสมณาคุณแก่ประชาชน ทีมีจิตศรัทธา ร่วมช่วยเหลือสร้างหลักเมือง-ศาลหลักเมือง โดยไม่หวังผลกำไร ภาพขั้นตอน-พิธีกรรมต่างๆตามแบบประเพณีแต่โบราณนั้น เพื่อให้ได้รู้จักประวัติศาสตร์ของตนเอง ของชาวศรีวิชัยเรา พร้อมทั้งให้ได้รู้จักความเป็นมา การเข้ามาของพุทธศาสนาในดินแดนแห่งนี้ ตามหลักฐานทางด้านต่างๆ ตามหลักฐานถูกค้นพบในกระเบื่องจารและแผ่นจารึกต่างๆ ที่ค้นพบในที่ต่างๆ ทั่วประเทศและได้นำมารวบรวมและแปลความหมายโดยท่านเจ้าคุณอำ่(พระราชกวี) วัดโสมมนัสวิหาร ซึ่งอาจเป็นที่ไม่ยอมรับ แต่หลักฐานนั้นเป็นการชี้ว่า คนไทยมาจากไหน ความเป็นมาอย่างไร
จากข้อมูลที่ผู้เขียนได้เข้าไปศึกษาพบว่า ที่กุฎิของท่าน เจ้าคุณอ่ำ [พระธรรมวงศ์เวที (อ่ำ ธมฺมทตฺโต)] ท่านเป็นผู้ดูแล มีพิพิธภัณฑ์(พิพิธภัณฑ์กเบื้องจานสีแดงชาด)เพื่อจัดเก็บ”เป็นพื้นที่จัดเก็บรักษา และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ “กเบื้องจาน” หรือ จดหมายเหตุโบราณ ที่ขุดพบจากใต้ดินอายุเก่าแก่ จำนวน 847 ชิ้น”ท่านได้ทุ่มเทเพื่ีอกาลนี้ และจากการเก็บมีทั้ง “หีบสมบัติ” หรือ “พิพิธภัณฑ์”Tiny Museum ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่เก็บรักษาให้สมบัติของชาติให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย หากตัวอาคารเองยังอยู่ในที่ที่ผู้สนใจสามารถมาค้นคว้า เป็นดั่งหีบสมบัติที่ช่วยส่งต่อความรู้สู่คนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่เคยรู้จักกเบื้องจานมาก่อนได้เข้ามาเรียนรู้ หาคำตอบ และตั้งคำถามถึงประวัติศาสตร์ที่พวกเขาเคยรู้ที่พิพิธภัณฑ์สีแดงชาดข้างกุฏิสงฆ์วัดโสมนัสราชวรวิหารแห่งนี้(นิตยสาร ROOM 15มีค.2024)
ในปี พ.ศ.2545 ด้วย #ความอัจฉริยภาพของท่านขุนพันธ์(พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช) ได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชาติไทย-ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการเข้ามาของพุทธศาสนาและบุคคลในประวัติศาสตร์ -บรรพบุรุษของเราที่เป็นต้นกำเหนิด-ต้นแบบของเราในแง่มุมต่างๆ ในอดีต ของดินแดนสุวรรณภูมิ ที่ถูกลืมมาเป็นเวลา 1500 ปี ในอดีตบรรจุลงในวัตถุมงคลสองรุ่นนี้-และรุ้นต่อมาโดยคุณฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช ที่ท่านได้ดำริสร้างเมื่อแรกเรื่มมี จำนวน 2 รุ่น เพื่อให้ชาวศรีวิชัย(ชาวสิบสองนักษัตริย์)ได้รู้จักความเป็นมาของประวัติตนเอง และผลพลอยได้ร่วมทำบุญ ท่านได้นำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาหรือวัดวาอารามต่างๆเพื่อเจริญรอยตามบรรพบุรุษ
พระผงอุดมโชค 8 อรหันต์สุวรณภูมิ ปี 2545 รุ่นเจดีย์ราย พร้อมมรายละเอียด-ความหมาย-เรื่องราวในองค์พระ ด้านหน้าและด้านหลัง
พระผงพระปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ ปี 2547 รุ่นสุวรรณภูมิพร้อมรายละเอียด-ความหมาย-เรื่องราวในองค์พระ ด้านหน้าและด้านหลัง
พระอุดมโชคท้าวจตุคาม -ท้าวรามเทพ ศรีวิชัยสุวรรณภูมิ รุ่น อนุสรณ์ดวงตาพยาราหู สร้างโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2 (ภาคใต้) นครศรีธรรมราช พร้อมรายละเอียด-ความหมาย-เรื่องราวในองค์พระ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ท้าวจตุคาม-ท้าวรามเทพ รุ่นแซยิด 108 ปี พร้อมรายละเอียด-ความหมาย-เรื่องราวในองค์พระ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
พระผงพระเจ้าศรีธรรมโศกราช รุ่นบันดาลโชคลานสะกา พร้อมรายละเอียด-ความหมาย-เรื่องราวในองค์พระด้านหน้าและด้านหลัง
พระผงท้าวจตุคาม -ท้าวรามเทพ รุ่นพระอุดมโชค ราชันสยาม พร้อมรายละเอียด-ความหมาย-เรื่องราวในองค์พระ ด้านหน้าและด้านหลัง
ผู้เขียนเอง
ศิลปะจตุคาม-รามเทพ สร้างสรรค์จากความศรัทธา ปี 2550 จากคุณพยอม ปิดชิด ร้านคนสร้างภาพ นครศรีธรรมราช
“”ย้อนความทรงจำ “”
ความเป็นมาท้าวขัตตุคาม ท้าวรามเทพ ที่ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยคุณฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช
นับเวลาจากการทำสังคายนาครั้งที่สามเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 234 ที่อโศการาม กรุงปาฏลีบุตร แคว้นมคธ ประเทศอินเดีย ของพระเจ้าอโศกมการาช เสร็จแล้ว
และได้ส่งคณะสมณทูต จำนวน 5 รูปมายังสุวรรณภูมิ ตรงกับสมัยของ พระเจ้าโลกละว้าราชาธิบดี คณะสมทูต เดินทางโดยเรือและพักแรมที่เมืองช้างค่อม (นครศรีธรรมราช)และเดินทางต่อไปยังสุวรรณภูมิ ถึงเมื่อเดือนอ้าย ขึ้น 14 ค่ำ พุทธกาลล่วงได้แล้ว 235 ปีฉลู
พระโสณะเถระอรหันต์เจ้า อยู่เมืองสุวรรณภูมิแล้ว 29 ปี ได้ให้พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า โอรสองค์ใหญ่ของพระเจ้าตะวันอธิราช ซึ่งสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าโลกละว้าราชาธิบดี ได้จารึกคำทำนายอายุพระพุทธศาสนาไว้ ขณะนั้นพระโสณะ ใกล้จะถึงกาลปรินิพาน
ความตอนหนึ่งว่า เมืองสุวรรณภูมิจะตั้งอยู่ได้ 1,045 ปี จะย้ายไปตั้งที่เมืองช้างค่อม(นครศรีธรรมราช)ที่เราเคยแวะพักแต่แรก พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า จะไปสร้างเมืองและวัดมหาธาตุ (ขณะที่จารึกพระโสณะอยายุ 110 ปี) ต่อมาพระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ก็มาสร้างเมือง สร้างวัดมหาธาตุและสร้างเจดีย์ครอบพระบรมธาตุที่ พระธนกุมาร และพระนางเหมชาลา ฝังพระบรมธาตุ พระเขี้ยวแก้วที่หาดทรายแก้ว รูปพระเจดีย์เป็นแบบศรีวิชัย
ในกาลต่อมาถึงสมัยรัชกาลพระเจ้าจันทรภาณุครองเมืองสุวรรณภูมิเกิดศึกสงครามที่ชมพูทวีป พระเจ้าจันทรภาณุจึงนำทัพไปปราบ จึงไปเป็นมหาราชของชมภูทวีปและทรงอยู่ที่อินเดีย 11 ปี (ระยะเวลาจากคำทำนายของพระโสณะเถระ ถึงสมัยของพระจ้าจันทรภาณุห่างกันประมาณ 700 ปี ซึ่งคำทำนายล่วงหน้านั้นแทบจะเป็นแค่ตำนานไปแล้ว ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง บางคนถึงกับลืมไปแล้ว หรืออาจไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง) ในขณะนั้นพระเจ้าจันทรภาณุฝากเมืองสุวรรณภูมิให้กับน้องชายคือ ขุนหารบุญไทยและลูกชายทั้งสองคือ ขุนอินทรไสเรนท์และขุนอินเขาเขียว ช่วยกันดูแลเมือง
และเนื่องจากเมืองช้างค่อม(นครศรีธรรมราช)ก็เป็นที่ตั้งของกองทัพเรือและเป็นที่ต่อเรือรบ กองทัพเรือในขณะนั้นอาณาจักสุวรรซภูมิยิ่งใหญ่มาก ควบคุมเมืองต่างๆในแถบทะเลใต้ทั้งหมด ทั้งฝั่งทะเลตะวันออกและฝั่งทะเลตะวันตก ทางใต้คุมไปถึงปาปัวนิวกินี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ตั้งแต่พระเจ้าเดือนเด่นฟ้าพร้อมสมณะทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา เมื่อ พ.ศ.249 (และสร้างบุโรพุทโธ เมื่อ พ.ศ.277)
หลังจากการแยกศึกในชมพูทวีป พระเจ้าจันทรภาณุก็อยู่เป็นมหาราชในชมพูทวีป สิบกว่าปี
ทางลูกชายทั้งสองคน อินทรไสเรนทร์และอินเขาเขียว ก็มาสร้างเมืองใหม่ที่เมืองช้างค่อม(นครศรีธรรมราช และเปลี่ยนชื่อเมืองจาก เมืองช้างค่อมศิริธัมมราช เป็นเมือง””ศรีวิชัยสุวรรณภูมิ””และบูรณะเจดีย์ที่พระเจ้าเดือนเด่นฟ้าสร้างไว้ ตั้งแต่ พ.ศ.200เศษ ห่างกันประมาณ 700 ปี นับเป็นการบูรณะเจดีย์คร้งที่ 1 แต่ยังคงรูปแบบศรีวิชัยเดิม ที่พระเจ้าเด่นฟ้าสร้างเอาไว้ (ปัจจุบันรูปแบบเจดีย์ยังคงถูกจำลองไว้ตรงทางเข้าพระวิหารคตทางซ้ายมือ)รูปแบบทรงลังกาที่เป็นปัจจุบัน เป็นการบูรณะสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช นับเป็นการบูรณะครั้งที่ 2 ห่างกัน ประมาณ 700 ปี แต่ยังดีที่คนโบราณยังจำลองแบบเจดีย์ที่ อินไสเรนทร์และอินเขาเขียวสร้างไว้เดิม และคนโบราณยังปั้นรูปกษัตริย์ 2 พี่น้องไว้ให้กราบไหว้ โดยตั้งชื่อเป็นเทวดาหรือเทพ
ในนาม””ท้าวขัตตุคามและท้าวรามเทพ””และยังคงใช้ความเชื่่อเดิมเรื่อง นักษัตร เป้นดวงตราประจำเมืองจนปัจจุบัน ซึ่งดวงตราดังกล่าวท่านทั้งสองนำเอามาจากสุวรรณภูมิ แนะนำให้รู้จักครูอาจารย์ ในสายอาชีพ ทุกอาชีพ ล้วนแล้วมาจาก””ต้นคน””ถือนักษัตรทั้ง 12 ท่าน (ซึ่งเป็นลูกของขุนอินและนางกวัก)
เมื่อพระเจ้าจันทร์ภาณุกลับมา เห็นเมืองแทบจะร้างไม่มีผู้ตคนเหมือนแต่ก่อนเพราะ ขุนหายบุญไทย น้องชายไปตั้งเมืองใหม่ที่เขางู ทางตะวันตกชื่อราชพลี ส่วนลูกชายทั้งสองมาตั้งเมือง “”ศรีวิชัย””ที่เมืองช้างค่อม(นครศรีธรรมราช) เมียอีกคนไม่มีลูก ก็กลับบ้านไปตั้งเมือง ทราวดีที่ นครปฐม
ต่อมาลูกเขยของขุนหาญบุญไทย คือขุนบางกลางท่าว (หรือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย) ไปตั้งเมืองสุโขทัย เพราะทนการเรียกเก็บภาษีพ่อตาไม่ไหว
สรุป
การสร้างพระบรมธาตุ สร้างวัดพระบรมธาตุ
ครั้งที่ 1 ผู้สร้างคือพระเจ้าเด่นเดือนฟ้า เมือ พ.ศ.200 เศษ สร้างครอบเนินดินที่ พระนางเหมชาลาและพระธนกุมาร พูนกรบพระธาตุบนหาดทรายแก้ว ตามคำแนะนำของพระโสณะเถระ สร้างเป็นทรงศรีวิชัย
ครั้งที่ 2 ผู้บูรณะ ขุนอินไสเรนทรและขุนอินเขาเขียว พ.ศ. 1000 เศษ ลูกของพระเจ้าจันทรภาณุ กษัตริย์องค์สุดท้ายของสุวรรณภูมิ พระธาตุเก่าพังเสียหายสร้างมา 700 ปี บูรณะเป็นแบบเดิมคือ ทรงศรีวิชัย
ครั้งที่ 3 ผู้บูรณะคือ พระเจ้าศรีธรรมโศกราช พ.ศ.1700เศษ บูรณะทรงลังกาปัจจุบัน เพราะของเก่าพังเสียหาย สร้างมา 700 ปี
###ขอขอบพระคุณ###
พระครูเหมเจติยาภิบาล (โสพิทร์ )
ภาพและเอกสาร ความลับของฟ้า องค์จตุคามรามเทพ เขียนโดย พงศธร เทพแสงพราว มอบโดยพระครูเกษมพัฒนกิจ
พระพุทธศาสนาในตำนานสุวรรณภูมิ เขียนและมอบโดยไทยสะกอ #คุณฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช
จตุคาม รามเทพ พระเทวราชโพธิสัตว์ แห่งอาณาจักศรีวิชัย มอบโดยผู้ใหญ่ปัญญา(แช่ม) บัวจันทร์
คุณสายันห์ ยรรยงค์นิเวศน์(ป๋อง โฟโต้)และหลายๆท่าน
เหตุเกิดที่เมืองนคร เขียนโดย มอบโดยคุณศุชัย แซ่ปุง
คุณทศพร จิตพิศุทธ์ิ
คุณเอกชัย สังข์รัตน์
คุณขวัญชัย มานะจิตต์
จตุคาม รามเทพ พระเทวราชโพธิสัตว์ แห่งอาณาจักศรีวิชัยมอบโดยคุุณอรรถ ศิริรักษ์
คุณยอม ปิดชิด ร้านคนสร้างภาพ นครศรีธรรมราช
ท้าวขัตตุคาม ท้าวรามเทพจากทวารบาลมาสู่เทวะผู้คุ้มครองเมืองนครศรีธรรมราช ชัยวุฒิ พิยะกุล มอบโดยคุณสุรเชษฐ์ แก้วสกุล
นิตยสาร ROOM 15มีค.2024
Leave a Reply
Logged in as komol. Edit your profile. Log out? ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *
ความเห็น *
Powered by iSoftBox.Net
- เกี่ยวกับเวิร์ดเพรส
- เมืองคอน.com
- ปรับแต่ง
- 15มี 15 อัปเดตออกมาแล้ว
- 44 ความเห็นรอตรวจสอบ
- สร้างใหม่
- แก้ไขเรื่อง
- ค้นหา
- สวัสดี komol