พระผง,พระโลหะหลวงปู่ทวด-พ่อท่านคล้ายสร้างในโอกาสทำบุญอายุ 100 ปีพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช
เม.ย. 02
“เศษดิน เศษปูนที่มาจากยอดพระบรมธาตูขอแค่ให้มีรูปพระพุทธเจ้าก็ไม่เหมาะสม ไม่สมควรที่นำไปเป็นสมบัติของส่วนตัวเพราะบรรพบุรุษรุ่นก่อนสร้างไว้เพื่อพิทักษ์พระบรมธาตุ”ดั้งคำจารึกบนแผ่นทองคำสะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธา ไม่ว่ามีสิ่งใดมีค่าล้วนนำมาบูชาพระบรมธาตุเจดีย์เื่ื่พื่อเข้าใกล้ในพระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งสิ้นจากหนังสือ เรียนรู้ บูชา พระบรมธาตุเมืองนคร
ประวัติท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช
ประวัติการทำงานการรับราชการและวีรกรรมที่ท่านสร้างไว้แก่วงการตำรวจโดยย่อ
ขุนพันธรักษ์ราชเดชกับพระมหากรุณาธิคุณ
ขุนพันธรักราชเดชกับประธานพิธีกรรมพุทธาภิเศก”พระพทุธสิหิงค์”เมื่อ 26 สค.2517
ขุนพันธรักษ์ราชเดชกับงานราชการ
ขุนพันธรักษ์ราชเดชกับการปราบปรามโจรผู้ร้าย
ขุนพันธรักษ์ราชเดชกับการพัฒนาเมืองคอน(ถนนพัฒนาการคูขวาง)
ขุนพันธรักษ์ราชเดชกับพระอริยสงฆ์รูปถ่าย..ร่วมฉลองยศขุนพันธรักษ์ราชเดช บ้านอ้ายเขียว อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช 11 มกราคม พ.ศ. 2505 ภาพจากเวป
ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชกับพิธีกรรมหลักเมือง ปี 2530 เมืองคอน
ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชกับการกีฬา(การชกมวย/แบตมินตัน) เมืองคอน
ท่านขุนพันธ์กับมวลชลโดยมอบรางวัลแก่แม่บ้าน
ท่านขุนพันธ์กับพิธีเปิดสาขาพรรคประชาธิปัตย์(แห่งแรกในภาคใต้)ในอดีต
ขุนพันธรักษ์ราชเดชกับการเขียนบทความและประวัติศาตร์เมืองคอนและอื่นๆ
ขุนพันธรักษ์ราชเดชกับครอบครัวในด้านต่างๆภาพอดีตจากหนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้ มอบโดยคุณยุรีย์ อังวิทยาธร
ภาพจากคุณอุทัย ไชยวรรณ ถ่ายเมื่อ 16 มีนาคม 2505ภาพอดีตจากหนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้ มอบโดยคุณยุรีย์ อังวิทยาธรภาพอดัีต การรักษาประเพณี พิธีโกนจุกบุตรชาย ภาพอดีตจากหนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้ มอบโดยคุณยุรีย์ อังวิทยาธรภาพอดีต-การสืบทอดวิชากระบี่กระบองของท่านขุนพันธรักราชเดช จากหนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้ มอบโดยคุณยุรีย์ อังวิทยาธร
ขุนพันธรักษ์ราชเดชกับตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธร เขต 8(ก่อนเกษียณอายุราชการ)
ขุนพันธรักษ์ราชเดชกับพระมหากรุณาพระราชทานปริญญาบัติ ปริญญากิตติมศักดิ์ จากสถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช
ขุนพันธ์กับการการบริหารร่างกายและอริยบทสบายๆ
“ของที่เป็นมงคลบนยอดพระธาตุของเมืองคอน ต้องทำให้คนเมืองคอนบูชา”ผมมีความคิดความศรัทธาอยู่อย่างหนึ่งว่า”อีก 1,000 ปีข้างหน้าจะมีไม่ที่จะมีบุรุษอย่างท่านขุนธ์ฯที่มีความพร้อมหลายด้าน มีธรรมะ/มีความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์/เป็นปูชนียะบุคคล/เป็นตัวอย่างของนักปกครอง/มีความเข้าใจทั้งพุทธ-ไสยเวทย์ จะมาเกิด“ประจวบเหมาะ”กับการบูรณะเจดีย์พระบรมธาตุและสามารถนำวัตถุมงคล(ปลียอดทองคำที่ำชำรุดตามธรรมชาติ)มาสร้างเป็นวัตถุมงคลแก่ปวงชนเพื่อบูชาปลียอดทองคำพระบรมธาตุเจดีย์ภาพจากหนังสือที่ระลึกงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของสมาคมชาวนครศรีธรรมราช กรุงเทพมหานคร ประจำปี 2541 ณ วัดแจ้ง นครศรีธรรมราช
ประวัติหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
ตามตำนานกล่าวว่าหลวงปู่ทวด เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ซึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ย (ทาสทำงานใช้หนี้) ของเศรษฐีปานเกิดในรัชกาลของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2125 ณ บ้านสวนจันทร์ (บ้านเลียบ) ต.ดีหลวง (ปัจจุบันเป็นตำบลชุมพล) อ.สทิงพระ(จะทิ้งพระ) จ.สงขลา แรกเกิดมีชื่อว่าปู ขณะท่านเกิดมีเหตุอัศจรรย์คือเกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น เสมือนหนึ่งว่ามีผู้มีบุญญาธิการมาเกิด เมื่อตัดรกจากสายสะดือแล้วนายหูบิดาของท่านก็นำรกของท่านไปฝังไว้ที่โคนต้นเลียบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ต้นเลียบในปัจจุบัน
เมื่อท่านเกิดมาแล้วก็มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นกับท่านเรื่อยมา เป็นต้นว่า ขณะที่ท่านอยู่ในวัยแบเบาะในช่วงฤดูเกี่ยวข้าวบิดามารดาของท่านต้องออกไปเกี่ยวข้าวที่กลางทุ่งนาซึ่งเป็นนาของเศรษฐีปาน ซึ่งท้องนาแห่งนั้นห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นาแห่งนั้นมีดงตาลและมะเม่าเป็นจำนวนมากครั้งนั้นจึงเรียกว่าทุ่งเม่า ปัจจุบันตั้งเป็นสำนักสงฆ์ชื่อนาเปล ในสมัยนั้นจึงมีสัตว์ป่าชุกชุมพอสมควร บิดามารดาของท่านจึงผูกเปลของท่านซึ่งเป็นเปลผ้าไว้กับต้นมะเม่าสองต้นและก็ได้เกี่ยวข้าวอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น พอได้ระยะเวลาที่นางจันทร์ต้องให้นมลูก นางจันทร์จึงเดินมาที่ที่ปลูกเปลของลูกน้อย และก็เห็นงูจงอางตัวใหญ่หรืองูบองหลาที่ชาวภาคใต้เรียกกันพันที่รอบเปล นางจันทร์เห็นแล้วตกใจเป็นอันมากจึงเรียกนายหูซึ่งอยู่ไม่ไกลนักมาดูและช่วยไล่งูจงอางนั้น แต่งูจงอางนั้นก็ไม่ไปไหน นายหูและนางจันทร์จึงตั้งสัตยาธิฐานว่าขออย่าให้งูนั้นทำร้ายลูกน้อยเลย ไม่นานนักงูจงอางนั้นก็คลายวงรัดออกและเลื้อยหายไปในป่านายหูและนางจันทร์จึงเข้าไปดูลูกน้อยเห็นว่ายังหลับอยู่และไม่เป็นอันตรายใด ๆ และปรากฏว่ามีเมือกแก้วขนาดใหญ่ที่งูจงอางคลายไว้อยู่บนอกเด็กชายปูนั้น เมือกแก้วนั้นมีแสงแวววาวและต่อมาได้แข็งตัวเป็นลูกแก้ว ปัจจุบันได้ประดิษฐานที่วัดพะโคะ เมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่องเข้าก็บีบบังคับขอลูกแก้วเอาจากนายหูและนางจันทร์ บิดามารดาของท่านจึงจำต้องยอมให้ลูกแก้วนั้นแก่เศรษฐีปานซึ่งเป็นนายเงิน แต่ลูกแก้วนั้นเป็นของศักดิ์สิทธิประจำตัวท่าน เมื่อเศรษฐีปานเอาลูกแก้วไปแล้วก็เกิดเภทภัยในครอบครัวเกิดการเจ็บป่วยกันบ่อย และมีฐานะยากจนลง เศรษฐีปานจึงได้เอาลูกแก้วมาคืนและขอขมาเด็กชายปู และยกหนี้สินให้แก่นายหูและนางจันทร์ ทั้งสองจึงพ้นจากการเป็นทาสและต่อมาก็มีฐานะดีขึ้น ๆ ส่วนเศรษฐีปานก็มีฐานะดีขึ้นดังเดิม
เมื่อท่านมีอายุได้ประมาณ 7 ขวบ พ.ศ. 2132 บิดามารดาของท่านจึงนำท่านไปฝากไว้เป็นศิษย์วัดเพื่อเล่าเรียนหนังสือ ที่วัดกุฎ๊หลวงหรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้านท่าน ขณะนั้นมีท่านสมภารจวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เด็กชายปูเป็นเด็กที่หัวดีเรียนเก่งสามารถเล่าเรียนภาษาขอมและภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว สมภารจวงได้บวชให้ท่านเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี ตอนที่ท่านบวชเป็นสามเณรนี้เองบิดาของท่านจึงถวายลูกแก้วคืนให้แก่ท่านเป็นลูกแก้วประจำตัวท่านต่อไป
ด้วยความที่เป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ตลอดเวลาของท่าน ต่อมาท่านสมภารจวงได้นำไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือที่สูงขึ้นสมัยนั้นเรียกว่ามูลบทบรรพกิจ ปัจบันก็คือเรียนนักธรรมนั่นเอง โดยนำไปฝากเรียนไว้กับสมเด็จพระชินเสน ซึ่งเป็นพระเถระชั้นสูงที่ส่งมาจากกรุงศรีอยุธยา ให้มาครองเป็นเจ้าอาวาสวัดสีคูยังหรือวัดสีหยังในปัจจุบัน ห่างจากวัดดีหลวงไปทางเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร ท่านได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและจบหลักสูตรที่วัดสีคูยังนั้น หลังจากนั้นท่านได้เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อเรียนหนังสือให้สูงขึ้น
โดยมาพำนักอยู่ที่วัดเสมาเมือง ซึ่งเป็นสำนักเรียนและมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสี เป็นเจ้าอาวาส และบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบกาลอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ จนมีความรู้และเป็นผู้ทรงอภิญญามาก และได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรศในครั้งสุดท้ายในราชทินนามที่ สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์ สุดท้ายเมื่อท่านมีอายุได้ 80 ปี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ วัดบ้านเกิดของท่าน ต่อมาท่านได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ว่าเมื่อท่านมรณภาพให้นำพระศพท่านไปไว้ที่วัดช้างไห้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ต่อไปสถานที่ข้างหน้าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้คนมาเที่ยว
หลวงปู่ทวด ได้ละสังขารด้วยโรคชราในปลายรัชกาลของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2225 สิริอายุได้ 100 ปี นับพรรษาได้ 80 พรรษา
- รายละเอียดมวลสารการสร้างพระผง พระโลหะหลวงปู่ทวด หลวงพ่อท่านคล้าย ประกอบด้วย
มวลสารและพิธีเททองหลวงปู่ทวดและพ่อท่านคล้าย ทำบุญอายุ 100 ปี ขุนพันธรักษ์ราชเดชผงปูนพระบรมธาตุเจดีย์/โลหะจากยอดพระบรมธาตุเจดีย์/ชนวนโลหะจากการหล่อพระในพิธีต่างๆที่ท่านขุนพันธ์ฯเก็บรักษาไว้
พระพุทธรูปทรงเครื่อง ที่หล่อจากปลียอดทองคำจำนวน 2 องค์(ปัจจุบันพระพุทธรูปทรงเครื่องอยู่ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช 1 องค์และอีก 1 องค์อยู่ที่สำนักพระราชวัง) และมวลสารที่เหลือ และคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพิธีหลอมทอง เพื่อบูรณะปลียอดพระบรมธาตุเจดีย์ ปี 2538 จำนวน 22 ท่าน,สมาชิกสภาจังหวัดและนายอำเภอทุกอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีมติว่ามวลสารส่วนที่เหลือ ประมาณ 70-80 กก.มอบให้ท่านขุนพันธ์รักษ์ราชเดช เพื่อใช้ให้ในการหล่อพระและมอบให้วัดต่างๆในนครศรีธรรมราต่อไป
ภาพพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์
1.พระผง
2.พระโลหะ
3.แบบลอยองค์
4.พิมพ์ฤษี
5.ชนิดพระบูชา
ภาพพระีที่มีการจัดสร้าง
หล่อโบราณหลวงปู่ทวด แบบพิมพ์ใหญ่(เตารีด) ด้านหลังหลังโค๊ดสวัสดิกะเจตนาท่านขุนพันธ์เพื่อให้สำหรับท่านชาย(มีโลหะเนื้อผสมเท่านั้น เนื้ออย่างอื่นไม่มี)
หล่อโบราณหลวงปู่ทวด แบบลอยองค์ เจตนาท่านขุนพันธ์เพื่อให้แก่เด็ก/สุภาพสตรี(มีโลหะเนื้อผสมเท่านั้น เนื้ออย่างอื่นไม่มี)
หล่อโบราณแบบฤษี เจนตาท่านขุนพันธ์เพื่อบูชาครู(ตามตำราเขาอ้อ)
หล่อโบราณพ่อท่านคล้ายแบบบูชา เจตนาท่านขุนพันธ์เพื่อใว้บูชา ประจำบ้าน/ยานพาหนะ
พระบูชาหลวงปู่ทวดเนื่อปูนผสมว่าน เจตนาท่านขุนเพื่อใว้บูชาประจำบ้านและยานพาหนะ
พิมพ์พระพุทธ ปางนาคปรก พระประจำวันเสาร์ หน้าตัก ครึงเซนติเมตร
และเมื่อ พ.ศ.2554 คุณฉันทิพย์ พันธรักษราชเดช(สร้างพระหลวงปู่ทวดในโอกาสทำบุญอายุ 60 ปีเพื่อถวายแก่วัดและศาลเจ้าต่างๆทั่วประเทศ)ได้นำพระหลวงปู่ทวดที่ขำรุด(หล่อโบราณ)นำไปพิมพ์ซ้ำใหม่ เป็นพระหลวงปู่ทวดพิมพ์ปั้มซ้ำด้านหลังมีเครืองหมายพิเศษเพื่อให้แตกต่างจากเครื่องหมายของรุ่น 100 ปี
“ข้อมูลเพิ่มเติม รายละเอียดต่างๆและพิธีปลุกเศก ในการสร้างพระผง พระโลหะหลวงปู่ทวด-พ่อท่านคล้ายสร้างในโอกาสทำบุญอายุ 100 ปี พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช” ข้อมูลจากคุณอภินันท์(ต๋อย) คมขำ“
วัตถุมงคลโอกาสทำบุญอายุ 100 ปี พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช
วัตถุมงคลโอกาสทำบุญอายุ 100 ปี พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช ในวันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2543 ท่านขุนฯได้สร้างพระรุ่น100 ปี มีดังนี้ พระบูชาหลวงปู่ทวด และพ่อท่านคล้าย พระนากปรกหล่อโลหะ พระฤๅษีหล่อโลหะ หลวงปู่ทวดหลังเตารีดหล่อโลหะยันต์นวกะ พระผงว่านหลวงปู่ทวดหลังเตารีด ขึ้นชุดหนึ่งเพื่อเป็นอนุสรณ์ในโอกาสนี้ โดยท่านได้สร้างเพื่อให้ชาวเมืองนคร ได้ไว้บูชา เพื่อไว้เตือนสตินำติดตัวไป โดยได้นำโลหะที่ชำรุดตามกาลเวลา เมื่อครั้งบูรณะซ่อมปลียอดพระบรมธาตุเจดีย์ (ปลียอดทองคำ) โลหะบนยอดพระบรมธาตุเจดีย์ประกอบด้วย สัมฤทธิ์ ดีบุก ทองแดง และโลหะพระเก่าที่ชำรุด “เป็นส่วนที่เหลือจากการหล่อพระพุทธรูป 2 องค์” และ ชนวนโลหะจากการหล่อพระอีกหลาย พิธีที่ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เก็บรักษาไว้ ผสมเพื่อจัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ เพียงท่านหวังว่า “ของที่เป็นมงคลบนยอดพระบรมธาตุของเมืองนครศรีธรรมราช ต้องทำให้คนเมืองนครบูชา” เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมบุญในการใช้อาราธนา ที่จะได้ทำคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาสืบไป
โลหะยอดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช (ยอดปลีทองคำ) เมื่อครั้งบูรณะซ่อมแซมยอดปลีทองคำ เนื้อโลหะบนยอดพระบรมธาตุ ประกอบด้วย สัมฤทธิ์ ดีบุก ทองแดง และเป็น มวลสารโลหะยอดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ที่ได้มาเมื่อครั้ง บูรณะปลียอดทองคำ ใน พ.ศ. 2538 เป็นแร่ธาตุจากหลายเมือง กษัตริย์ของแต่ละเมืองนำโลหะมาผสมหลอมหลายชนิด หล่อแบบโบราณเป็นปล่องไฉนสมทับกันไว้ สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ร่วมกับพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ตั้งแต่การสร้างเป็นทรงลังกาเมื่อราวปี พ.ศ.1700-1800 จนปัจจุบัน ก็ประมาณ 700 ปีเศษ และเมื่อ พ.ศ. 2155 – พ.ศ. 2159 สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้มีการซ่อมแผ่นทองที่ปลียอดพระบรมธาตุเจดีย์ในครั้งนั้นด้วย
กรมศิลปากรทำการบูรณะปลียอดทองคำ พระบรมธาตุเจดีย์ เนื่องจากเกิดรอยชำรุดด้วยความเก่าแก่ของโลหะ จึงคัดเลือกส่วนที่ชำรุด รื้อออกลงมาซ่อมแซม ส่วนปลียอดทองคำ เริ่มเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2537 จนเสร็จสมบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2538 และเสริมความมั่นคงซ่อมแกนปูนในปลียอด โดยการอนุรักษ์รูปแบบและวัสดุอย่างของเดิม ด้วยวิธีการบูรณะและวิธีการปฏิสังขรณ์ โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 50 ล้านบาท เพิ่มทองคำ 141 บาท (มาตราชั่ง ตวง วัด ของไทย 1 บาท เท่ากับ 15.2 กรัม ) จึงได้โลหะส่วนชำรุดบนปลียอดทองคำเป็นเนื้อโลหะผสมหลายชนิด ส่วนเนื้อโลหะบนยอดพระบรมธาตุ ประกอบด้วย สัมฤทธิ์ ดีบุก ทองแดง และโลหะพระเก่าที่ชำรุด
หากเกิดความคิดความศรัทธาว่าอีก 1000 ปี ข้างหน้าจะมีไครบางที่จะมี บุรุษอย่างท่าน ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่มีความพร้อมหลากหลายด้าน มีความเข้าใจธรรมะ ทั้งพุทธศาสตร์-ไสยเวทย์ / มีความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ / เป็นตัวอย่างของนักปกครอง / เป็นปูชนียะบุคคล / จะมาเกิด”ประจวบเหมาะ” กับการบูรณะเจดีย์พระบรมธาตุ และสามารถนำโลหะปลียอดทองคำที่ชำรุดตามธรรมชาติ มาสร้างเป็นวัตถุมงคลแก่ปวงชนเพื่อสักการบูชา ในการอาราธนาใช้ ติดตัว เฉพาะโลหะที่ได้จากยอดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราชก็เหนือสิ่งอื่นใดแห่งความเป็นสิริมงคล ทั้งได้ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช มาดำเนินการ ด้านพิธีกรรม จัดสร้างโดยสมบูรณ์แบบ
การสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้คงอยู่แล้ว ยังได้นิสงค์ในการที่ลูกหลาน ได้บูชาและนับถือบรรพบุรุษไทย เพราะการได้วัตถุที่มีส่วนผสมของหยาดเหงื่อ แรงศรัทธาที่บรรพบุรุษได้ทุ่มเท ทั้งแรงกายและแรงใจในการก่อสร้างถาวรวัตถุในบวรพระพุทธศาสนา ซึ่งยังคงมีหลักฐานเหลือให้เห็นซึ่ง เป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์ที่ปรากฏความยิ่งใหญ่ในยุคสมัยเก่า อันแสดงถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งซากวัตถุที่นำมาผสมผสานให้เกิดขึ้น มีขึ้นจากน้ำมือของบรรพบุรุษทั้งชีวิตและจิตใจของพวกท่าน ยังคงฝังแน่นอยู่ในประติมากรรมทุกอณูของวัตถุที่นำมา ก่อสร้าง ซึ่งดวงจิตและดวงวิญญาณยังคงติดตาม อนุโมทนาและอำนวยอวยชัย แก่ผู้ที่ยังนับถือและระลึกถึง ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันว่าคนที่นับถือบรรพบุรุษ ย่อมประสพแต่ความเจริญ และรอดพ้นอุปสรรคได้เสมอ จึงนับว่าเป็นโอกาสดีของพุทธบริษัทที่ได้ร่วมกุศล เพราะการสร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจ ที่ไม่ได้มีไว้เพื่อหวังว่าราคาจะแพงขึ้นหรือถูกลง มีแล้วจะทำให้ร่ำรวยมีทรัพย์ เงินแสน เงินล้าน คงเป็นไปได้ยาก หาก เราไม่ทำมาหากิน และกระทำในทางสุจริต มีศีลธรรม จริยธรรมและจารีตประเพณีอันดีงาม เป็นสิ่งที่ก่อให้ผู้มีคุณสมบัตินี้ ประสพความสำเร็จ
(2.) ระลึกถึง คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูอาจารย์ หลวงปู่ทวด และอาราธนาตามใจนึก
(3) สวด “นะ โม โพ ธิ สัต โต อา คัน ติ มา ยะ อิ ติ ภะ คะ วา” ( 3 จบ )
(4) สวด “พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ” ( 3 จบ )
ข้อห้าม.ห้ามด่าแม่ด่าพ่อ ผิดเมียผู้อื่น ไม่พูดคำหยาบ ไม่เบียดเบียนสัตว์โลก ขณะมีพระติดตัว ห้ามนอนกับผู้หญิง ไม่ควรนำพระลอดใต้ราวผ้าและเข้าส้วมถ่ายทุกข์หนัก เป็นดี
ส่วนประกอบของพระบรมธาตุเจดีย์
ความสูงของพื้นถึงยอดปลี สูง 37 วา 2 ศอก สูงจากฐานถึงยอดปลี 37 วา 2 ศอก
ฐานยาวด้านละ ยาว 18 วา 1 ศอก 15 นิ้ว
ฐานพระบรมธาตุเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีหัวช้างยื่นออกจากฐาน 22 หัว
รอบกำแพงแก้วมีใบเสมา และรั้วเหล็กรอบกำแพงแก้ว ฉัตร บังสูรย์ และกระดิ่งเป็นระฆัง ห้อย
รอบองค์เจดีย์ระฆังคว่ำ มีกำแพงแก้ว 4 ด้าน เท่ากัน กว้าง/ยาว 12 วา 2 ศอก
หน้ากระดานปล้องไฉนมีพระเวียน 8 องค์
ปล้องไฉน 52 ปล้อง
บัวคว่ำ บัวหงาย หุ้มด้วยทองคำแผ่น สูง 6 วา 2 ศอก 1 คืบ
ยอดปลีของปล้องไฉน หุ้มด้วยทองคำ แผ่เป็นแผ่นหนา เท่าใบลานหุ้มไว้ น้ำหนัก 800 ชั่ง (เท่ากับ 960 กิโลกรัม)
ส่วนที่หุ้มทองคำเหลืองอร่าม สูง 6 วา 2 ศอก 1 คืบ (เท่ากับ 6เมตร)
ทองรูปพรรณหลายชนิด เช่น แหวน กำไล ต่างหู จำนวนมากผูกแขวนบนปลียอดทองคำ
บนยอดสุดมีบาตรน้ำมนต์ 1 ใบ
ชนวนมวลสารโลหะในการจัดสร้าง ได้แก่
( 1.) โลหะยอดพระธาตุ นครศรีธรรมราช ครั้งบูรณะซ่อมแซม ยอดปลีทองคำ ปี 2538 (ส่วนที่เหลือ จากการหล่อพระพุทธรูป 2องค์)
( 2.) โลหะชนวนเก่า ของ วัดเขาอ้อ และ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
( 3.) โลหะชนวนหล่อพระปิดตา วัดแหลมทราย จ.สงขลา
( 4.) โลหะชนวนหล่อพระกริ่ง ภูทราวดี ปี 2505 (วัดพระบรมธาตุ) – ปี 2506 (วัดพระปฐมเจดีย์)
( 5.) โลหะชนวนพระ ภปร. วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพ ปี2508
( 6.) โลหะชนวนหล่อพระกริ่ง วัดราชาธิวาส ปี 2514
( 7.) โลหะชนวนหล่อพระกริ่งพุทธสิหิงค์ ปี 2517 และ ปี 2535
( 8.) โลหะกรุ พระพิจิตร พระสุพรรณ พระกำแพงเพชร ซึ่งชำรุดแล้ว
( 9.) โลหะชนวน พิธีหล่อพระ ในพิธีต่างๆ ที่ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชประกอบพิธี
(10.) โลหะกั่นอาวุธต่างๆ 108 ชิ้น หลอมผสมที่วัดนางตรา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ปี 2541
พิธีปฐมฤกษ์ ในงานรุ่น “พระนางตรา 100 ปี ท่าศาลา” บวงสรวงบูชาเทพเทวดา สวดโลหะชนวนมวลสาร ลงอักขระแผ่นยันต์ เททองหล่อพระพุทธรูปนางตรา และเทหล่อพระนากปรกลอยองค์ หลวงปู่ทวดหลังเตารีด หลวงปู่ทวดลอยองค์ พระฤๅษีลอยองค์
วันที่ 24 กรกฎาคม พุทธศักราช 2541 ตรงกับ วันศุกร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ปีขาล ณ วัดนางตรา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
โดยมี พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธี และมี คุณฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช เป็นผู้คอยดูแลในมณฑลพิธี
พิธีพุทธาภิเษก วันที่ 20 มีนาคม 2542 ตรงกับ วันเสาร์ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ณ.อุโบสถวัดนางตรา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
เกจิประกอบพิธีพุทธาภิเษก ประกอบด้วย พระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ พัทลุง อาจารย์สังข์ วัดดอนตรอ ,อาจารย์เนียม วัดบางไทร ,อาจารย์นวล วัดไสหร้า อาจารย์วรรณ วัดเสาธงทอง และเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพนับถือ จำนวน 31 รูป ทั้งนี้ มีพระครูกาชาด(บุญทอง)วัดดอนศาลา จ.พัทลุง เป็นพระคุมพิธีพุทธาภิเษก และ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธีฝ่ายคฤหัสถ์ และมีคุณฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช เป็นบัณฑิตและเป็นผู้คอยดูแลในมณฑลในพิธี
พระอริยสงฆ์ ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ผู้เปี่ยมด้วยบารมีและพุทธคุณสูงยิ่ง ปรากฏอภินิหารแก่ผู้เคารพสักการะ เป็นที่ยอมรับทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จากอดีตถึงปัจจุบัน ควรค่าแก่การมีไว้ครอบครองและติดตัวตลอดเวลา
ประกอบพิธีปลุกเสก และพุทธาภิเษก วัตถุมงคล “100 ปี พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช”
4 มิถุนายน 2541 พฤหัส ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 7 ปีขาล ณ.สถูปเจดีย์อัฐิหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
24 กรกฎาคม 2541 ศุกร์ ขึ้น1 ค่ำ เดือน 9 ปีขาล พิธีเททอง ณ.วัดนางตรา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
7 สิงหาคม 2541 ศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 ปีขาล (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต3) ณ.พระอุโบสถ วัดพะโคะ อ.สทิงพระ จ. สงขลา
8 สิงหาคม 2541 เสาร์ แรม 1 ค่ำ เดือน 9 ปีขาล (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต3) ณ.พระอุโบสถ วัดทรายทอง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
20 มีนาคม 2542 เสาร์ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ (รุ่น100ปี อ.ท่าศาลา) ณ.พระอุโบสถ วัดนางตรา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
8 เมษายน 2542 พฤหัสบดี แรม 8 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ (รุ่นเหยียบน้ำทะเลอันดามัน) ณ.กลางทะเลอันดามัน จ.กระบี่
9 เมษายน 2542 ศุกร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ (รุ่นเหยียบน้ำทะเลอันดามัน) ณ.ยอดเขาพระบาท(บันได 1200 ขั้น) ณ.วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
10 เมษายน 2542 เสาร์ แรม 10 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ (รุ่นเหยียบน้ำทะเลอันดามัน) ณ.ฐานเจดีย์ระฆังใหญ่ ณ.วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
2542 พระกริ่งพุทธสิหิงค์ พระสุธรรมาธิบดี(เพิ่ม อาภาโค) ณ.พระอุโบสถ วัดพระเพรง อ.พระพรหม จ .นครศรีธรรมราช
2543 พระกริ่ง(รุ่นเจ้าสัวเบตง) ณ.พระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
2543 พระกริ่ง(รุ่นเจ้าสัวเบตง ) ณ.พระอุโบสถ วัดพุทธาธิวาส อ.เบตง จ. ยะลา
8 เมษายน 2543 เสาร์ ขึ้น5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง พุทธาภิเษก(รุ่น100 ปี ขุนพันธรักษ์ราชเดช) ณ.พระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรวิหาร
15 เมษายน 2543 เสาร์ ขึ้น12 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง ทำบุญอายุครอบรอบ 100 ปี ณ.ศาลา100ปี วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช
5 มิถุนายน 2543 จันทร์ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรง ณ.พระอุโบสถ วัดสวนป่าน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
16 กรกฎาคม 2543 คืนจันทรุปราคาเต็มดวง(ราหูอมจันทร์) ณ.ห้องพระ บ้านราชเดช (ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ปลุกเสกเดี่ยว)
5 สิงหาคม 2544 อาทิตย์ แรม 1 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเส็ง พิธี (รุ่นพุทธาคมเขาอ้อ) ณ.พระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรวิหาร
12 สิงหาคม 2544 อาทิตย์ แรม 8 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเส็ง พิธี (รุ่นพุทธาคมเขาอ้อ) ณ.ถ้ำฉัตรฑัณวัดเขาอ้อ จ.พัทลุง
17 กันยายน 2545 อังคาร ขึ้น 11 ค่ำ เดือน ปีมะเมีย พิธี(รุ่นอุดมโชคปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ) “บูรณะเจดีย์ราย” ณ.ถ้ำฉัตรฑัณ วัดเขาอ้อ
21 กันยายน 2545 เสาร์ ขึ้น 15 เดือน 10 ปีมะเมีย พิธี (รุ่นอุดมโชคปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ) “บูรณะเจดีย์ราย” ณ.กลางทะเลอ่าวนคร
22 กันยายน 2545 อาทิตย์ แรม 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเมีย พิธี (รุ่นอุดมโชคปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ) “บูรณะเจดีย์ราย” ณ.หอพระวิหารสูง
25 กันยายน 2545 พุธ แรม 4 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเมีย พิธี (รุ่นอุดมโชคปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ) “บูรณะเจดีย์ราย” ณ.พระวิหารหลวง
12 สิงหาคม 2546 อังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 ปีมะแม พิธี (รุ่นอนุสรณ์บ้านพังฬการ) ณ.หอพระวิหารสูง (โบสถ์มหาอุด)
21 สิงหาคม 2546 พฤหัส แรม 9 ค่ำ เดือน 9 ปีมะแม พิธี (รุ่นอนุสรณ์บ้านพังฬการ) ณ.พระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรวิหาร
26 สิงหาคม 2546 อังคาร แรม 14 ค่ำ เดือน 9 ปีมะแม พิธี(รุ่นอนุสรณ์บ้านพังฬการ) ณ.อุโบสถ วัดมะม่วงขาว อ.พระพรหม
20 มกราคม 2547 อังคาร แรม 14 เดือน 2 ปีมะแม พิธี(รุ่นบันดาลโชค พระเจ้าศรีธรรมโศก) ณ.หอพระวิหารสูง (โบสถ์มหาอุด)
6 กุมภาพันธ์ 2547 ศุกร์ แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ปีมะแม พิธี(รุ่นบันดาลโชคพระเจ้าศรีธรรมโศก) ณ.พระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรวิหาร
19 กุมภาพันธ์ 2547 พฤหัส แรม 14 ค่ำ เดือน 3 ปีมะแม พิธี(รุ่นบันดาลโชค พระเจ้าศรีธรรมโศก) ณ.ปะรำกลางน้ำวังโบราณอ.ลานสกา
10 พฤศจิกายน 2547 พุธ แรม 13 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก พิธี (รุ่น ปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ) ณ .ถ้ำฤๅษีเขางู อ.เมือง จ.ราชบุรี
12 พฤศจิกายน 2547 ศุกร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 12 ปีวอก พิธี (รุ่น ปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ) ณ.หอพระวิหารสูง (โบสถ์มหาอุด)
17 พฤศจิกายน 2547 พุธ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 12 ปีวอก พิธี(รุ่น ปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ) ณ.กลางทะเลอ่าวนคร
10 ธันวาคม 2547 ศุกร์ แรม 14 ค่ำ เดือน 12 ปีวอก พิธี(รุ่น ปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ) ณ.พระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรวิหาร
ขอขอบคุณ
ความรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ที่น่าจดจำและจารึกไว้ครับ
ขอบคุณจากใจจริงครับ ในการนำเสนอสิ่งดีดีแบบนี้เสมอมาครับ
คุณnakhonkup999
ผมขอขอบคุณเช่นกัน สำหรับกำลังใจครับ
มล.พัน
Its like you learn my mind! You appear to know a lot about this,
like you wrote the e book in it or something. I believe that you
could do with a few % to drive the message house a little bit,
but other than that, this is wonderful blog. An excellent read.
I’ll certainly be back.
คุณ พระเครื่อง
Thank you for visiting the website. And sincerely hope that you will follow up and feedback.
เรียนทุกท่าน ผมได้แชร์ บทสัมภาษณ์ ท่านขุนเมือ.พ.ศ.2540ครับhttp://www.youtube.com/watch?v=-vOTV5ZjSZg
ขอบคุณสำหรับข้อมูลของมวลสารในการจีดทำพระเครื่่องรุ่น 100 ปี ขุนพันธ์ฯ ปั๊มซ้ำ ที่พี่ฉันทิพย์จัดสร้าง
คุณtippachat chitrattha ด้วยความยินดีครับและขอบคุณทุกๆท่านที่ได้ให้ข้อมูลด้วยครับ